ในยุคปัจจุบันฟิลเลอร์เป็นตัวช่วยยอดนิยมในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า และหนึ่งในฟิลเลอร์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ Radiesse ด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ชนิดอื่นอย่างชัดเจน Radiesse ไม่ได้ทำหน้าที่แค่เติมเต็มร่องลึก แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Radiesse เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและดูเป็นธรรมชาติ
ความแตกต่างของ Radiesse เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ชนิดอื่น
1.วัสดุและส่วนประกอบ
-ฟิลเลอร์ทั่วไป เช่น ไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid - HA) มีคุณสมบัติเฉพาะในการกักเก็บน้ำและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
-Radiesse ใช้แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ มีคุณสมบัติกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว และมีโครงสร้างที่คงตัวมากกว่า HA ทำให้เหมาะกับการเติมเต็มในจุดที่ต้องการการยกกระชับ
2.ผลลัพธ์ที่ได้
-ฟิลเลอร์ HA: เน้นเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความอวบอิ่มให้กับใบหน้า และให้ความชุ่มชื้น
-Radiesse: นอกจากเติมเต็มร่องลึกแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูผิวให้แน่นกระชับจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
3.ระยะเวลาการเห็นผล
-ฟิลเลอร์ HA จะเห็นผลทันทีหลังฉีด
-Radiesse เห็นผลทันทีในส่วนของการเติมเต็ม แต่ผลการกระตุ้นคอลลาเจนจะชัดเจนขึ้นในช่วง 1-3 เดือนหลังฉีด
4.ระยะเวลาของผลลัพธ์
-ฟิลเลอร์ HA มีอายุการใช้งานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดและยี่ห้อ
-Radiesse มีอายุการใช้งานนานกว่า โดยเฉลี่ย 12-24 เดือน เนื่องจากการกระตุ้นคอลลาเจนช่วยเสริมผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น
5.ความเหมาะสมกับบริเวณการฉีด
-ฟิลเลอร์ HA เหมาะกับบริเวณที่ต้องการความอ่อนนุ่ม เช่น ริมฝีปาก ใต้ตา หรือแก้ม
-Radiesse เหมาะกับบริเวณที่ต้องการยกกระชับและให้โครงสร้าง เช่น แนวกราม คาง แก้มสันกราม หรือหลังมือ
ข้อดีของ Radiesse
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
• ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ HA
• มีความคงตัวสูงและลดโอกาสการเกิดการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
• ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน
Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มองหาผลลัพธ์ที่มากกว่าการเติมเต็ม ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ชนิดอื่น มีความคงตัวและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ Radiesse ควรได้รับการพิจารณาและฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด