โรคเข่าเสื่อมเป็นอาการที่พบได้มากในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโรคนี้จะไม่เกิดกับผู้ที่อายุน้อยกว่านี้ โรคเข่าเสื่อมเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยทุกๆ วันที่มีอาการนั้นไม่สบายและรู้สึกเจ็บปวดเข่าตลอดเวลา ซึ่งสามารถทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้เข่าได้เป็นปกติ และมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
การรักษาโรคเข่าเสื่อมนั้นมีหลายวิธี โดยแต่ละวิธีจะมีความเหมาะสมต่อแต่ละผู้ป่วยตามความรุ่งเรืองของโรคและระดับความรุ่งเรืองของโรคนั้นๆ ซึ่งบทความนี้จะเสนอแนะวิธีการรักษาโรคเข่าเสื่อมที่พบได้บ่อยๆ รวมถึงวิธีการป้องกันโรคเข่าเสื่อมเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคในอนาคต โดยเน้นไปที่การป้องกัน รักษาและแก้ไขโรคเข่าเสื่อมอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อแต่ละบุคคล โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโดยรวมให้สูงสุด โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเข่าเสื่อมในอนาคตอีกต่อไป
เป็นโรคเข่าเสื่อมรับการรักษาจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญอย่างไรได้บ้าง
การรักษาโรคเข่าเสื่อมสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคและความต้องการของผู้ป่วย การรักษาสามารถรวมถึงดังนี้:
• การใช้ยา: แพทย์อาจสั่งยาแก้ปวดหรือยาระบบต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและอาการอักเสบ
• การฝังเข็ม: การฝังเข็มแบบจีน (Acupuncture) หรือการฝังเข็มไฟฟ้า (Electro-Acupuncture) อาจช่วยลดอาการปวดและอักเสบในข้อเข่า
• การฟื้นฟูกล้ามเนื้อ: การทำกายภาพบำบัดและการฝึกหัดกล้ามเนื้อสามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและรักษาการเคลื่อนไหวของข้อเข่า
• การผ่าตัด: ถ้าการรักษาด้วยวิธีอื่นไม่สามารถผลักดันการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและการฟื้นฟูร่างกายได้ แพทย์อาจต้องแนะนำให้ผ่าตัดเข่าเสื่อมและประสานกับการฟื้นฟูหลังการผ่าตัด
• อุปกรณ์ช่วยเหลือการเดิน: การใช้รถเข็นหรือไม้เท้าช่วยเดิน (Cane) หรืออุปกรณ์ช่วยเดินอื่น ๆ เช่น เท้าปลอม สามารถช่วยให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น
• การป้องกัน: การป้องกันโรคเข่าเสื่อมสามารถทำได้โดยการควบคุมน้ำหนักตัว ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
การป้องกันไม่ให้เกิดโรคเข่าเสื่อม
การป้องกันไม่ให้เกิดโรคเข่าเสื่อมสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:
• ควบคุมน้ำหนัก: การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์สมส่วนสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเข่าเสื่อมได้
• ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงให้กับข้อเข่า โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่เน้นไปที่กล้ามเนื้อขา เช่น การเดิน วิ่ง รวมถึงการปฏิบัติโยคะและเล่นกีฬาที่ไม่มีการกระทำที่มีผลกระทบต่อข้อเข่า
• รับประทานอาหารที่เหมาะสม: การรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบที่เหมาะสม เช่น แตงกวา แครอท ผักกาด และอาหารที่มีวิตามินซีและวิตามินอี เป็นต้น สามารถช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถสร้างเซลล์เนื้อเยื่อได้อย่างเพียงพอ
• การป้องกันการบาดเจ็บ: การป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเข่าเสื่อม เช่น การใช้หัวข้อเท้าที่เหมาะสม เมื่อทำกิจกรรมที่เป็นการเดิน วิ่ง หรือเล่นกีฬา
• การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำกิจกรรมที่เป็นอันตราย